วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2557

6 เหตุผลซอฟต์ๆ … ทำไม(คุณ)ถึงรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา !


ตื่นเช้าขึ้นมายังไม่ทันได้ทำอะไรก็รู้สึกร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรงจะทำอะไรซะแล้ว แถมยังรู้สึกเหนื่อยล้าตลอดทั้งวันทั้งๆ ที่เมื่อคืนก็นอนเต็มอิ่ม มันเกิดจากสาเหตุอะไรกันนะ …? 

วันนี้จะมาเฉลยคำตอบให้หายสงสัยกันกับ 6 เหตุผลซอฟต์ๆ ที่คุณมักมองข้ามเพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย !


1. คุณไม่ได้ดื่มน้ำเพียงพอ (ต่อวัน/ ต่อร่างกาย)

เรื่องเล็กน้อยที่คุณมักมองข้ามและคิดว่ามันคงไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยดื่มทดแทนก็ได้ แต่คุณรู้ไหมว่าถ้าในหนึ่งวันร่างกายขาดน้ำเป็นปริมาณมาก จะทำให้เลือดไหลเวียนช้าลงและมีความเข้มข้นมากขึ้น! เพราะฉะนั้นที่คุณรู้สึกเหนื่อยเพลียเนื่องจากการไหลเวียนของเลือดกระจายตัวได้ไม่เต็มที่ (ประสิทธิภาพ) หัวใจสูบฉีดเลือดทำงานได้ไม่เต็มร้อยนั่นเอง รวมทั้งความเร็วที่ออกซิเจนและสารอาหารจะเข้าถึงกล้ามเนื้อและอวัยวะส่วนต่างๆ ก็ลดลงไปด้วย

ทางที่ดีในหนึ่งวันคุณควรดื่มน้ำ 8-10 แก้วต่อวัน ไม่เพียงแต่ทำให้เลือดเจือจางและไหลเวียนดีขึ้น แต่ผิวพรรณจะแลดูสุขภาพดี ดูสดใส เปล่งปลั่งขึ้นด้วย


2. คุณบริโภคธาตุเหล็กน้อยเกินไป

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย เพลียง่าย และอาจทำให้คุณรู้สึกขี้เกียจ โมโหง่าย อ่อนแอ ป่วยง่าย และมีอาการไม่สามารถโฟกัสอะไรได้เป็นเวลานานๆ ร่วมตามไปด้วย เนื่องจากออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อและเซลล์ต่างๆ ไม่เพียงพอ ขอแนะนำว่าคุณควรบริโภคธาตุเหล็กอย่างน้อย 1 ใน 4 ของอาหารที่คุณทานต่อวัน เพื่อช่วยให้ร่างกายคุณมีพลังในการทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น ช่วยคิดและจดจำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น ต่อต้านการเจ็บป่วย และลดความเสี่ยงของภาวะโลหิตจาง!

ธาตุเหล็กมักพบอยู่ในอาหารจำพวก เนื้อ (ไม่ติดมัน), ไข่แดง, ผลิตภัณฑ์จากธัญพืช, ข้าวโอ๊ต, หน่อไม้ฝรั่ง, ถั่วฝักยาว, ผักแว่น, เห็ดฟาง, พริกหวาน, ใบแมงลัก, ใบกะเพราะ, ถั่วขนาดเล็ก, เต้าหู้, ไข่ไก่, ผักที่เต็มไปด้วยใบสีเขียวเข้ม, ถั่วเปลือกแข็งต่างๆ และเนยถั่ว

3. คุณไม่ได้รับประทานอาหารเช้าและทานแต่อาหารขยะ

คุณรู้หรือไม่ว่าอาหารขยะที่คุณมักทานตอนเช้าเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย เพลียตลอดทั้งวันและทำให้คุณอ้วนขึ้นไม่รู้ตัว เนื่องจากอาหารเหล่านั้นไม่ได้ให้โปรตีน ไขมัน วิตามินต่างๆ ที่ให้พลังงานคุณ แต่กับให้น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตจำนวนมากที่เป็นตัวเร่งให้ให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น ทางที่ดีคุณควรรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ (เพื่อไม่ให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาภายหลัง) ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาทานอาหารเช้าโดยลดน้ำตาลและแป้ง แต่เสริมด้วยโปรตีนจากโฮลเกรนและนมสดเข้าไปแทนในทุกมื้อ ทำให้เป็นกิจวัตร เพื่อสุขภาพและระบบการทำงานภายในร่างกายที่ดีขึ้น … น่าจะเวิร์กกว่านะ

*** อีกหลากหลายทางเลือกที่ให้พลังงานแถมโปรตีนเพี๊ยบ คุณสามารถทานข้าวสีน้ำตาล, แซลมอน, มันฝรั่งหวาน, สลัดไก่, สลัดผลไม้ และทานไก่ได้ (แต่ต้องเอาไปอบเท่านั้นนะ ห้ามทอดเด็ดขาดเพราะน้ำมันนี่แหละตัวดีเลย) ***


4. งานที่ยุ่งเหยิง รัดตัว ทำงานจนไม่ได้พักผ่อน

แบ่งเวลาจากการทำงานมาขาร์ตพลังงานให้กับร่างกายบ้างนะ เพราะไม่อย่างนั้นร่างกายจะรู้สึกเพลีย เหนื่อยง่ายและอาจน็อกเอาต์ไปซะดื้อๆ ยิ่งถ้าโต๊ะทำงานเต็มไปด้วยงานวางกองจนล้น อาจทำให้คุณเหนื่อยใจและเสียสุขภาพจิตเอาได้ง่ายๆ อย่าทำงานจนเกินขีดจำกัดความสามารถคุณและให้เวลาพักผ่อนกับตัวเองบ้าง เพราะการพักผ่อนอย่างเต็มที่จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้สมองปลอดโปร่งและปลดปล่อยพร้อมสำหรับการเริ่มต้นใหม่

หาวันว่างๆ พักผ่อนสมอง ปล่อยใจและกายให้โล่งบ้าง หยุดคิดเรื่องปวดหัวอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้งก็ยังดีนะ หรือถ้างานรัดตัวจริงๆ ก็แบ่งเคลียร์งานวันนั้นให้เสร็จ แล้วกลับมาพักผ่อนต่อที่บ้าน รีแล็กซ์สบายๆ

5. คุณดื่มไวน์ 1-2 แก้วก่อนนอน

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดูเหมือนเป็นหนทางที่ดีที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายก่อนการนอนหลับและทำให้คุณหลับได้เร็วขึ้น แต่จริงๆ แล้วมันส่งผลตรงข้ามกับที่คุณคิดไว้เลย เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้การทำงานของระบบประสาทส่วนกลางลดลงให้ผลเหมือนยาระงับประสาท และส่งผลผลสะท้อนกลับทำให้อะดรีนาลีนในร่างกายสูบฉีดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมหลังจากคุณดื่มไปแล้วคุณถึงรู้สึกตื่นตัวตลอดเวลา ทางที่ดีเพื่อการนอนหลับที่สบายและยาวนาน คุณควรหยุดดื่มแอลกฮอล์ทั้งหมด(ทุกชนิด) 3-4 ชั่วโมงก่อนนอน

6. การเล่นอุปกรณ์/เทคโนโลยีก่อนนอน

ถ้าเมื่อคืนคุณเล่นอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีต่างๆ ก่อนนอน ก็เป็นไปได้ว่าพอตื่นเช้าขึ้นมาคุณจะรู้สึกเพลียเหมือนนอนได้ไม่เต็มอิ่ม เนื่องจากไฟที่สว่างจ้าออกมาจากหน้าจอแท็บเล็ต สมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์ของคุณ ทำให้นาฬิกาชีวิตและระบบการทำงานในร่างกายคุณหันเหทำงานไม่ปกติ ร่างกายไม่สามารถควบคุมฮอร์โมนเมลาโทนินที่ช่วยให้การนอนหลับเป็นปกติและตื่นอย่างเป็นระบบได้ จึงทำให้คุณรู้สึกง่วงและเพลียหลังจากตื่นขึ้นมา ถ้าคุณอยากนอนเต็มอิ่ม พรุ่งนี้เช้าตื่นมาสดใส กระปรี้กระเปร่า เพียงแค่คุณปิดเทคโนโลยีสื่อสารทั้งหมดก่อนนอนสัก 1-2 ชั่วโมง ก็ช่วยได้เยอะแล้วล่ะ !

แต่ถ้าคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะเช็กอุปกรณ์ เทคโนโลยีของคุณได้ ก็ให้ถือห่างจากหน้าและสายตาอย่างน้อย 14 นิ้ว และเล่นในที่มีแสงสว่างเพียงพอ อย่า! ปิดไฟเล่นเด็ดขาด เพราะดวงตาของคุณจะรับแสงจากหน้าจอมากเกินไป ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยเพลียเมื่อตื่นนอนแล้ว ยังทำให้คุณสายตาเสียอีกด้วย (อาจสายตาสั้นลง).


ขอบคุณข้อมูล : http://www.thairath.co.th/content/451700

วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557

แผนที่โรงเรียนดนตรี เมโลดิอุส

 

การเดินทาง
- ใช้เส้นทาง ถ.บางนา-ตราด มุ่งหน้าออกมาทาง ชลบุรี จนถึงช่วง กม. 11 ใช้สะพานกลับรถ (สังเกตทางออกจะมีป้าย ถ.กิ่งแก้ว หรือ ห้าง แมคโคร) เมื่อกลับรถแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าถ.กิ่งแก้ว-เทพารักษ์ ขับตรงมาประมาณ 2 กม. เลี้ยวขวาเข้า ถนนหนามแดง-บางพลี (จุดสังเกต จะมีป้าย ร.ร.สารสาสน์วิเทศสุวรรณภูมิ) เมื่อเข้ามาในถนนแล้ว โรงเรียนจะอยู่ด้านขวามือ ตรงข้ามกับร้านเซเว่นอีเลฟเว่น จอดรถหน้าตึกได้ ขึ้นมาชั้น 2

 - ใช้เส้นทาง ถ.เทพารักษ์ ประมาณ กม. 11 เลี้ยวซ้ายสี่แยกบางพลี-ตำหรุ เมื่อข้ามสะพานข้ามคลองสำโรงแล้ว ให้เลี้ยวซ้ายเข้า ถนนหนามแดง-บางพลี (จุดสังเกต จะมีป้าย ร.ร.สารสาสน์วิเทศสุวรรณภูมิ) เมื่อเข้ามาในถนนแล้ว โรงเรียนจะอยู่ด้านขวามือ ตรงข้ามกับร้านเซเว่นอีเลฟเว่น จอดรถหน้าตึกได้ ขึ้นมาชั้น 2

- ใช้เส้นทาง ถ.ศรีนครินทร์ ขับมาจาก ฝั่งพัฒนาการ ผ่าน ห้าง foodland ขับต่อมาอีก 500 เมตร ให้เลี้ยวซ้ายเข้า ถนนหนามแดง-บางพลี ขับมาประมาณ 7 กม. โรงเรียนจะอยู่ซ้ายมือ ตรงข้าม เซเ่ว่น

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557

ความสำเร็จอีกขั้น ของ "เทควันโดสายเลือดใหม่"

10 คุณประโยชน์ ของดนตรี ที่มีต่อ ลูกน้อย

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ติวโสตทักษะ ทฤษฏีดนตรี ปฏิบัติดนตรี เปียโน กีต้าร์ กลอง ไวโอลิน

ติวโสตทักษะ ทฤษฏีดนตรี ปฏิบัติดนตรี เปียโน กีต้าร์ กลอง ไวโอลิน
เข้าคณะดนตรี ตั้งแต่ ม.4 ถึง ป.ตรี
มหิดล, ศิลปากร, มศว., เกษตร, Abac, รังสิต, จุฬา, ราชภัฏ ฯลฯ
เรามีตัวอย่างข้อสอบ แบบฝึกหัดมากมายเพื่อให้นักเรียนเข้าได้อย่างรวดเร็ว

สอนโดยคณาจารย์จาก มหิดล, ศิลปากร, จุฬา, มศว. ฯลฯ

สนใจติดต่อ โรงเรียนดนตรี เมโลดิอุส
02-183-9700, 087-022-0277, 091-5588-700



วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

“ โยคะเด็ก ” บำบัดอาการ “สมาธิสั้น” , “ก้าวร้าว” , “เครียด” , “ติดเกมส์” ในเด็กอายุ 4- 12 ปี สมัครและจองเวลาเรียนได้ที่ เมโลดิอุส สตูดิโอ 02-183-9700 , 091-5588-700

โยคะเด็ก  
Yoga for kids
บำบัดอาการ “สมาธิสั้น” , “ก้าวร้าว” , “เครียด” , “ติดเกมส์” ในเด็กอายุ 4- 12 ปี



สมัครและจองเวลาเรียนได้ที่ เมโลดิอุส สตูดิโอ 
02-183-9700 , 091-5588-700 , 087-022-0277

“โยคะเด็ก” คือการฝึกพัฒนาร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณ โดยเป็นการเคลื่อนไหวร่าง กายที่ต้องทำพร้อมกับการกำหนดลมหายใจ นับเป็นการเตรียมกายใจให้พร้อมเพื่อเสริมสร้างสมดุลให้เกิดขึ้น โดยผลพลอยได้นั้นไม่เพียงแต่ช่วยผ่อนคลายความเครียด หรือทำให้จิตใจสงบเย็นลงได้เท่านั้น ทว่ายังช่วยให้สุขภาพดี เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เป็นการพัฒนาบุคลิกภาพ และทำให้ระบบภายในร่างกายมีความสมดุลยิ่งขึ้นด้วย

           จากการศึกษาในเด็กที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น "โรคสมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder)" หรือ ADHD จำนวน 48 ราย ของออสเตรเลีย พบว่าการฝึกสมาธิแบบสหจาโยคะทำให้อาการรุนแรงลดลงโดยเฉลี่ย 35% ตลอดระยะเวลา 6 สัปดาห์ของการฝึก และยังช่วยลดการใช้ยาของผู้ป่วยจำนวนมากลง ผู้นำร่วมในการศึกษาครั้งนี้ ดร.มโนชา ราเมศ ซึ่งเป็นแพทย์ผู้ชำนาญทั่วไปแห่งโรงพยาบาลซิดนีย์ กล่าวต่อที่ประชุมสมาคมจิตเวชศาสตร์โลก ณ เมืองเมลเบิร์น ถึงพัฒนาการด้านความประพฤติ ความเคารพในตนเอง (Self-esteem)     และสัมพันธภาพที่เกิดขึ้น เด็กๆ บอกว่าพวกเขานอนหลับได้ดีขึ้น และมีความกังวลลดลงเมื่ออยู่บ้าน ขณะที่ความขัดแย้งก็ลดลง และสมาธิในการเรียนก็ดีขึ้นเมื่ออยู่โรงเรียน ทำให้พ่อ แม่ ผู้ปกครอง มีความสุขไม่เครียดเหมือนที่ผ่านมา และยังสามารถจัดการกับพฤติกรรมของเด็กๆ ได้ดีกว่าที่เคยเป็น

ดร.มโนชา กล่าวว่า “การฝึกสมาธิทำให้คนสามารถเข้าสู่ภวังค์ได้ โดยทั่วไปเด็กสามารถฝึกสมาธิได้โดยธรรม พวกเขาจะคิดในเวลาเพียงชั่วครู่ เด็กที่เป็น ADHD จะไม่มีความสนใจในสิ่งต่างๆ สมาธิของเขาจะสั้น แต่การฝึกสมาธิเป็นเรื่องที่ตรงกันข้าม เพราะจะมุ่งไปที่การใส่ใจ ความสงบ และการควบคุมสิ่งเร้า นี่เป็นการสอนซ้ำให้เด็กรำลึกถึงทักษะที่พวกเขาลืม และสูญเสียความสามารถทางธรรมชาติในการทำสมาธิ เพราะบางสิ่งบางอย่างในสภาพแวดล้อมรอบตัวพวกเขาขาดความสมดุลไป นี่เป็นเครื่องมือที่สามารถนำพาพวกเขาให้กลับคืนมาสู่สภาพปกติได้”

ประโยชน์ที่เด็กจะได้จากการฝึกโยคะ
  • ด้านร่างกาย :เด็กๆ จะได้พัฒนาความแข็งแกร่ง ความยืดหยุ่นของร่างกาย และความสมดุลของการทรงตัว นอกเหนือจากการได้ออกกำลังกายในวิชาพละ เด็กที่ฝึกโยคะไม่นานนักจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่าอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายยืดหยุ่น และสามารถที่จะทรงตัวในท่าทางต่างๆ ได้เป็นเวลานาน
  • ด้านจิตใจ :ทำให้เด็กได้ผ่อนคลาย การให้เด็กได้ฝึกโยคะ จะช่วยให้เขารู้จักการอยู่ในอิริยาบถที่สงบทั้งกาย และใจ ทำให้เด็กได้ผ่อนคลาย ซึ่งเป็นการช่วยลดความเครียดจากการเรียนทั้งในโรงเรียน และนอกโรงเรียน
  • ด้านสมอง : ช่วยเสริมสร้างสมาธิ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งของการฝึกโยคะ คือการฝึกลมหายใจเข้า – ออก และการจินตนาการ เด็กๆ จะถูกฝึกให้หายใจลึกๆ พร้อมกับจินตนาการให้เห็นภาพของสภาพแวดล้อมที่สดชื่น เงียบสงบ ทั้งก่อนการทำท่าโยคะ และเมื่อจบการทำโยคะ การที่เด็กตั้งจิตให้อยู่กับจินตนาการของตัวเองนั่น ผลที่ได้คือทำให้เกิดสมาธิ และส่งผลโดยตรงต่ออารมณ์ โดยจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนหลังจากฝึกเสร็จ ที่เด็กๆ ทุกคนจะอารมณ์ดีและเยือกเย็น
 



Credit:กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข

วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

หลักสูตรพิเศษ ร้องเพลงแนว Conrtemporary สไตล์ Pop,Jazz,Soul,Rock และ R&B ครูสอนด้วยหลักสูตรจากอเมริกา M.I (musician Institute) จำนวนจำกัด

หลักสูตรพิเศษ ร้องเพลงแนว contemporary สไตล์ Pop,Jazz,Soul,Rock และ R&B 
เพื่อเข้าแข่งขันร้องเพลงรายการต่างๆ , เพื่อสอบเข้า ป.ตรี Voice
ครูสอนด้วยหลักสูตรจากอเมริกา M.I (musician Institute) 
 !! จำนวนจำกัด !!

Course Description
เทคนิค การร้องเพลงแนว contemporary (Pop,Jazz,Soul,Rock และ R&B) เป็นเทคนิคการขับร้องที่นักร้องทั่วโลกใช้กันมากมายในการขับร้องเพลงแนวนี้ 

นักเรียนจะได้เรียนรู้ ทำความเข้าใจ ทฤษฏีการทำงานของถึงกระบวนการเปล่งเสียง (Human body's vocal mechanisms) ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถข้ามผ่านไปได้ เราจึงต้องเข้าใจทฤษฎีในการการใช้เสียงก่อนลงมือปฎิบัติ
 (รับสมัครจำนวนจำกัด ติดต่อ โรงเรียนดนตรี เมโลดิอุส 02 183 9700, 087 022 0277, 091 5588 700)

Q: "ใครบ้างที่สามารถเรียนการขับร้องเพลงแนว Contemporary Styles?" 
- ผู้เรียนต้องมีอายุ 12 ปีขึ้น 
- ต้องมีพื้นฐานการเรียนร้องเพลง หรือ มีทักษะในการร้องเพลงที่ดี 

Q: "หลักสูตรนี้เหมาะกับใครบ้าง?" 
- เหมาะกับผู้ที่ขับร้องเพลงแนวนี้และไม่สามารถแก้ปัญหาการขับร้องด้วยวิธีเดิมได้ 
- ผู้ที่ต้องการประกวดขับร้อง เพราะ หลักสูตรนี้พิสูจน์แล้วว่า สามารถแก้ปัญหาการขับร้องได้ในระยะเวลาที่สั้นลง เพียงแค่ผู้เรียนเข้าใจถึงทฤษฎีและวิธีการ แล้วลงมือปฏิบัติอย่างถูกต้อง 
- ผู้ที่มีปัญหาในการขับร้อง เช่น เกิดการ crack เมื่อขึ้นโน้ตสูง , ไม่สามารถเอื้อนเสียงได้ดีเมื่อร้องเพลงในแนวนี้ ฯลฯ 

Q: "เทคนิคการขับร้องแนว Contempary จะเน้นหลักการสอนเรื่องใดบ้าง?" 
- กลไกและวิธีการเปล่งเสียง (Vocal mechanisms) 
- องค์ประกอบของกล่องเสียง (Mechanisms of Larynx) 
- เรียนรู้ตำแหน่งของเสียง (How vocal chords stretch to produce sound in the upper,middle and lower registers) 
- ตำแหน่งของการวางรูปสระที่ถูกต้อง Vowel placements ซึ่งเป็น ส่วนที่สำคัญของการใช้เสียง 

Q: "สิ่งที่นักเรียนจะได้รับการปรับปรุงและพัฒนาการเรียนร้องเพลงแนว Contemporary styles"
- สามารถพัฒนาเสียงร้องและเทคนิคการเปล่งเสียง (Vocal Technique) ที่สามารถแก้ปัญหาการร้องใน contemporary styles ง่ายขึ้น 
- ความดังเบา (dynamics) 
- การสร้างเสียง effect ในการร้องเพลงแนว Contemporary 
- ความแข็งแรงของเสียง endurance 
- ระบบการหายใจ และ กระบังลม Diaphragmatic และ Breathing 
- ทำความเข้าใจกับ การวางรูปแบบของการร้องให้เหมาะสมในแต่ละสไตล์เพลง (Vocal pacing) 
- วิธีการดูแลรักษาเส้นเสียง awareness of vocal burnout 

(รับสมัครจำนวนจำกัด ติดต่อ โรงเรียนดนตรี เมโลดิอุส 02 183 9700 , 087 022 0277) 

"หลักสูตรนี้จะช่วยให้นักเรียนแก้ไขปัญหาการขับร้องเพลงแนวนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสบผลสำเร็จในการนำมาใช้ได้อย่างดี" 


ด.ช. ณพงศ์ ธรรมชาติ ได้รับคะแนนสูงสุดอันดับ 1 ของประเทศไทย จากการสอบร้องเพลงสไตล์ POP VOCAL กับ London College of Music เมื่อเดือนธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งณพงศ์ เริ่มเรียนร้องเพลงด้วยวิธีนี้มาเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น


"ประวัติครูผู้สอน" ครูฝัน อ.นันทพร เทพภูษาวัฒนา 

 

  • ปริญญาตรี สาขา Voice Entertainment วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัย มหิดล 
  • The Degree of Associates of arts in Performance(Voice) 2009- Musician institute,College of contemporary music, California,USA ในสาขาวิชา Voice Performance (Contemporary music)และได้มี โอกาสเข้าสอนหลังจากเรียนจบเป็นเวลา 1 ปี 
  • ปัจจุบัน เป็นหนึ่งในคณาจารย์สาขาวิชา Pop Vocal ที่ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัย มหิดล 



รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อโดยตรงที่ 
โรงเรียนดนตรี เมโลดิอุส 
ตั้งอยู่ที่ 188/77-78 หมู่ที่ 4 ชั้น2 ถ.หนามแดง-บางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 
(บางนาตราด กม.12) เลย Mega Bangna มาเพียง 5 กม. เท่านั้น 
โทร 02 183 9700 , 087 022 0277 , 091 5588 700

Facebook : http://www.facebook.com/melodiousmusicschool